สถาบันไทยพัฒน์ เปิดตัวข่ายงานทรัพยากรภัยพิบัติ ภาคเอกชน สนับสนุนการทำงานฟื้นฟูขององค์กรธุรกิจหลังน้ำลด


สถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวข่ายงานทรัพยากรภัยพิบัติ (Disaster Resource Network) ภาคเอกชน สนับสนุนการทำงานฟื้นฟูขององค์กรธุรกิจ ด้วยแนวทาง "Build Back Better" เพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัยพิบัติ เน้นการใช้กระบวนงานหลักขององค์กร และประเด็นด้านความยั่งยืน โดยนำตัวชี้วัด GRI มาใช้สนับสนุนการดำเนินงาน

ความถี่และผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและเกิดบ่อยครั้งขึ้นทั่วโลก ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมหาศาล ในประเทศไทย ภัยจากคลื่นสึนามิเมื่อปี 2547 ใน 6 จังหวัดภาคใต้ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่า 30,000 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในปีที่แล้วได้สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูงถึง 16,339 ล้านบาท

ในปีนี้ สถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งสิ้น 65 จังหวัด โดยมีการประเมินตัวเลขความเสียหายเบื้องต้นเป็นจำนวนนับแสนล้านบาท ซึ่งผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ จำต้องได้รับการฟื้นฟูเยียวยา และทำให้การดำรงชีวิตและการทำงานกลับคืนสู่สภาพปกติ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ภาคธุรกิจเอกชนถือเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญที่มีส่วนในการช่วยเหลือ การบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูหลังการเกิดภัยพิบัติ โดยในต่างประเทศ ได้มีการจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือของภาคเอกชนต่อการรับมือกับภัยพิบัติในลักษณะของการทำงานวิถีกลุ่ม (Collective Action) เพื่อเสริมพลังของการช่วยเหลือ การบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูจากภัยพิบัติที่มีความรุนแรงและส่งผลเสียหายในวงกว้าง ที่ซึ่งทรัพยากรขององค์กรใดองค์กรเดียวไม่สามารถใช้ให้เกิดผลได้เพียงลำพัง

สถาบันไทยพัฒน์ ในฐานะองค์กรที่ทำงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2548 ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดการภัยพิบัติและการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัยพิบัติ ที่ภาคเอกชนจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยการทำงานในแบบกลุ่มความร่วมมือ และจำต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ กรณีศึกษา และบทเรียนการจัดการภัยพิบัติในอดีตทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการเรียนรู้และต่อยอดการทำงาน ที่ทำให้ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ดังนั้น จึงได้พัฒนาข่ายงานทรัพยากรภัยพิบัติ สำหรับภาคเอกชน ในชื่อ Thai DRN เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและทรัพยากรสนับสนุนการทำงานของภาคเอกชนในการจัดการภัยพิบัติและการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัยพิบัติ

ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการเปิดตัวข่ายงานทรัพยากรภัยพิบัติ ในวันนี้ (6 ธ.ค. 2554) ว่า จากการที่สถาบันได้ขับเคลื่อนงานด้าน CSR ร่วมกับภาคธุรกิจภายใต้เครือข่าย Thai CSR มาโดยตลอด เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีชุดข้อมูลและองค์ความรู้ที่เหมาะสมต่อการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมในสถานการณ์ฉุกเฉินและไม่ปกติ รวมทั้งความจำเป็นของการมีกลยุทธ์การรับมือภัยพิบัติที่มีประสิทธิผล สำหรับตอบสนองต่อเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งต่างจากกลยุทธ์ CSR ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติ

“Thai DRN เป็นเสมือนแหล่งข้อมูลด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในเวอร์ชั่นพิเศษ เพื่อใช้สนับสนุนการทำงานของภาคเอกชนในสถานการณ์ภัยพิบัติ ขณะที่ Thai CSR จะทำหน้าที่สนับสนุนการขับเคลื่อน CSR ในสถานการณ์ปกติ ซึ่งก็ได้ดำเนินงานเข้ามาสู่ปีที่ 7 แล้ว”

นอกจากเครือข่าย Thai DRN จะทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลความรู้และเครื่องมือด้านการดำเนินงานฟื้นฟูบูรณะให้แก่ภาคเอกชนแล้ว การสนับสนุนการทำงานของ Thai DRN จะใช้แนวทาง "Build Back Better" เพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัยพิบัติ และจะส่งเสริมผลสำเร็จของภาคเอกชนในกระบวนการฟื้นฟูบูรณะชุมชนที่ประสบภัยพิบัติ ด้วยการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่เห็นชัดและวัดได้ โดยคำนึงถึงการดำเนินผ่านกระบวนงานหลักขององค์กร และประเด็นด้านความยั่งยืน ที่มีตัวชี้วัดครอบคลุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำมาจากกรอบการรายงานสากลของ GRI มาใช้เป็นแนวทางในการกำกับการสนับสนุนการทำงาน

ภาคเอกชนที่สนใจนำเครื่องมือเผชิญภัยพิบัติมาใช้สำหรับองค์กร ตั้งแต่เครื่องมือการลดความเสี่ยง (Risk Mitigation) เครื่องมือการเผชิญเหตุ (Response) เครื่องมือการฟื้นฟู (Recovery) และเครื่องมือการสื่อสาร (Communications) สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ข่ายงานทรัพยากรภัยพิบัติที่ www.thaiDRN.com

--------------------------

ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสถาบันไทยพัฒน์
คุณปิยเลขา ไหล่แท้ โทรศัพท์ 0-2930-5227 โทรสาร 0-2930-5228
อีเมล info@thaipat.org